🔌 1. แบ่งตามประเภทของแรงดันไฟฟ้า
✅ AC to DC Power Supply (แปลงไฟฟ้ากระแสสลับเป็นกระแสตรง)
- ใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์, ควบคุมมอเตอร์, PLC ฯลฯ
- มีหลายแรงดัน เช่น 5V, 12V, 24V, 48V
✅ DC to DC Converter
- ใช้แปลงแรงดัน DC หนึ่งระดับไปอีกระดับ
- เหมาะกับระบบที่มีแหล่งจ่ายไฟหลักเป็นแบตเตอรี่หรือโซลาร์เซลล์
✅ AC to AC Converter (Voltage Regulator/Transformer)
- ใช้แปลงแรงดัน AC เช่น 220V → 110V
- บางแบบมีระบบปรับแรงดันอัตโนมัติ
✅ DC to AC Inverter
- แปลงไฟ DC เป็น AC เช่น จากแบตเตอรี่หรือโซลาร์เซลล์
- ใช้ในระบบสำรองไฟหรือโซล่าร์อินเวอร์เตอร์
⚙️ 2. แบ่งตามเทคโนโลยีการทำงาน
✅ Linear Power Supply
- คงที่ เสถียร แต่ใหญ่และไม่ประหยัดพลังงาน
- ใช้ในวงจรที่ต้องการความนิ่งสูง เช่น เครื่องมือวัด
✅ Switching Power Supply (SMPS)
- ประสิทธิภาพสูง ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา
- นิยมใช้ในงานอุตสาหกรรมทั่วไป เช่น ระบบอัตโนมัติ
🏭 3. แบ่งตามลักษณะการติดตั้ง
✅ DIN Rail Power Supply
- ติดตั้งบนราง DIN นิยมในตู้คอนโทรล
✅ Panel Mount Power Supply
✅ Open Frame / Enclosed Power Supply
- Open frame: ไม่มีฝาครอบ ใช้ในงานฝังวงจร
- Enclosed: มีฝาครอบกันฝุ่น นิยมใช้งานภายนอก
🔄 4. แบ่งตามฟังก์ชันการใช้งาน
- Redundant Power Supply – ใช้สำหรับระบบที่ต้องการความเสถียรสูง (มีแหล่งจ่ายสำรอง)
- Programmable Power Supply – ปรับค่าแรงดัน/กระแสได้ด้วยระบบดิจิทัล
- Uninterruptible Power Supply (UPS) – แหล่งจ่ายไฟสำรองกรณีไฟดับ
✅ สรุป
การเลือก Power Supply ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับ:
- แรงดัน/กระแสที่ต้องการ
- ประเภทโหลด
- ลักษณะการติดตั้ง
- ความต้องการความเสถียรของระบบ